ค้นบทความอื่นๆ

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ซามูไรไม่หั่นผัก [1] คนรุ่นล้มเหลว - วีระ ธีรภัทร

 



ในคุยได้คุยดี เมื่อมีคนโทรมาถามอาจารย์วีระ

เรื่องที่ค้นข้อมูลเองได้ง่ายๆ

อาจารย์จะบอกเสมอว่า

"อย่าเอาซามูไรไปหั่นผัก"

ดังนั้นอาจารย์จะไม่ตอบ ให้ไปเสิร์ชกูเกิลเอา


เรามาดูซามูไร (ไม่) หั่นผัก

ของ "โรนินวีระ" กัน!

..................................

รายการคุยได้คุยดี 17 มกราคม 66

"คุณก้อ" โทรมาเล่าว่าดูซีรีส์เกาหลี เห็นระบบอุปถัมภ์

สงสัยว่าทำไมเกาหลีเจริญ

ทำไมระบบอุปถัมภ์ในบ้านเราถึงแตกต่าง

ทำให้ความเจริญต่างกัน อาจารย์คิดเห็นยังไง


อ.วีระ "ไม่คิดอะไรแล้วครับ

อายุปูนนี้ไม่คิดเรื่องพวกนี้แล้วครับ

ไม่คิดแล้วประเทศไหนเจริญกว่าประเทศไทย

ประเทศไทยจะต้องเจริญไปไหน

เมื่อก่อนคิด เดี๋ยวนี้ไม่ได้คิดแล้ว

มันจะเป็นยังไงก็ช่างมัน

ด้วยวัย มันเลิกคิดเรื่องพวกนี้แล้ว


แต่ที่ผมคิดจริงๆ ผมคิดอย่างงี้

ใครที่อายุ 60 กว่าขึ้นไป

แล้วเที่ยวไปแนะนำคนโน้นคนนี้ ไปตักเตือนไปอะไร

คนรุ่นใหม่อย่างนั้นอย่างงี้

ผมต้องบอกอย่างงี้นะว่า เราต้องตระหนักว่า

"เราล้มเหลวในการนำพาประเทศ"

ถ้าเทียบเคียงกับคนรุ่นเดียวกันของประเทศอื่น

เขาดึงประเทศเขาไปได้อย่างงั้น

เหมือนกับว่าคนรุ่นเดียวกันของบ้านเรากับบ้านเขาน่ะ

เขาดึงประเทศ เขานำประเทศมาได้อย่างงี้

ประเทศที่เขาเจริญกว่าเราน่ะนะ


ไอ้คนที่อายุเยอะๆ แล้วมาแนะนำคนนู้นคนนี้

อย่างงั้นอย่างงี้น่ะผมถึงบอกว่า

คุณเป็นส่วนหนึ่งของความล้มเหลว

ที่ทำให้ประเทศเดินมาได้แค่นี้

ไม่ทัดหน้าเทียมตากับประเทศอื่นที่คุณพูดๆ กัน

อย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์

เอาสามประเทศนี้ก็พอ ไม่ต้องไปไกล

เขาก็มีช่วงเวลาของคนรุ่นที่ทำเต็มที่ให้กับสังคมเขา

ทำได้ถึงแค่นี้

ของเรา รุ่นเรา มันทำได้ไม่ถึงตรงจุดนั้น

มันจะเป็นด้วยอะไรก็ช่างแม่งเหอะ

(หัวเราะ) จริงๆ มันจะเป็นด้วยระบบอุปถัมภ์

มันจะมาจากบ้าบอคอแตกช่างแม่ง ขี้เกียจคิด

คุณต้องเข้าใจว่ามู้ดแอนด์โทนผมเนี่ย

มันเป็นมู้ดแอนด์โทนที่ไม่เอาอะไรแล้ว

รุ่นผมเนี่ยมันเป็นรุ่นที่ล้มเหลว

ถ้าเราเก่งจริงดีจริง เราต้องพาประเทศ

ไปได้ไกลกว่านี้เยอะ

ผมถึงบอกว่า เฮ้ย มึงอย่ามาแนะนำ

ไปบอกเด็กอย่างงั้นอย่างงี้

ก็รุ่นคุณยังล้มเหลว แล้วคุณจะไปแนะนำ

ลิงช้างค่างทะเลที่ไหนเล่า จริงๆ ผมพูดอย่างงี้เลย

ไอ้คนที่ว่าโอ้ย อย่างงั้น อย่างงี้ อย่างโง้น

เด็กไม่เก่ง ทำไม่ดี เป็น...

รุ่นคุณน่ะแม่งล้มเหลว นึกให้ดี พยายามนึกย้อนให้ดี

มันล้มเหลว มันนำพาสังคมมาได้แค่นี้

ยังไม่ตระหนักกัน แม่งยังอยากจะทำอะไรกันอีก

เฮ้ย คุณ คุณล้มเหลวแล้วคุณยังล้มเหลวซ้ำซากอีกเหรอ

บางคนแม่งไปเพาะพันธุ์ใหม่อีก (หัวเราะ)

บางคนไปทำการเพาะพันธุ์ให้มันล้มเหลวใหม่ขึ้นไปอีก


ไม่มีอนาคต ไม่มีอนาคตเลย

คนรุ่นผมทำงานมา 40 ปี จะดีจะชั่วอะไรก็มาได้แค่นี้

ถามว่าน่าพึงพอใจมั้ย ไม่น่าพึงพอใจเลย

เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้

แต่เพราะอะไรเราถึงไม่สามารถทำได้ดีกว่านี้

อันนี้ต้องไปคิดต่อ

มันมีข้อจำกัดอะไร มันมีอุปสรรคอะไร

โครงสร้าง กลไกอะไรมันไม่เวิร์กก็อีกเรื่องนึง

แต่เราต้องตระหนักว่าเราล้มเหลวที่จะพาสังคมไทย

ให้มันทัดเทียมเจริญก้าวหน้าเมื่อเทียบกับ

คนอื่นที่เขาอายุรุ่นเดียวกับผมในประเทศอื่นๆ

เขาดึงประเทศเขามาได้ขนาดนั้น

อันนี้ ผมพยายามจะสื่อสารให้เข้าใจ


ใครมาถามอะไรผมมาก ผมบอกเลย

คนรุ่นผมเป็นพวกล้มเหลว คนเก่งน้อยมาก

คนดีก็น้อยมาก มันถึงได้เพาะพันธุ์ขึ้นมาเดี๋ยวนี้ไง

คุณดูดิ ระบบที่เป็นอยู่ตอนนี้

แตะอะไรลงไป หนองแตกทั้งนั้น

ไม่รู้กี่หนองแล้วเดี๋ยวนี้ ดูดิ อ่านข่าวกันแต่ละวัน

แต่ละเรื่อง เห็นมั้ย

กรมตั้งใหม่ๆ ยังเละเลย ดีเอสไอ เห็นมั้ยล่ะ

ดีเอสไอมันมีอายุประมาณ 20 ปีเท่านั้นเอง

เละเป็นวุ้นเลย

(คุณก้อบอกว่ามองในแง่ดี ระบบตรวจสอบเราดีขึ้น)

ไม่มีแง่ดีให้มองเลย มันมีแต่แง่ไม่ดีให้เห็นตรงหน้า

ระบบการตรวจสอบยิ่งหนัก

ห่วยแตกยิ่งกว่าระบบทำงานอีก

ระบบปฏิบัติการห่วยแล้ว

ระบบตรวจสอบยิ่งห่วยหนักเข้าไปอีก


30-40 ปีนี้เละมาตลอด แต่มันไม่ผุดขึ้นมา

มันเละอยู่แล้ว แต่มันไม่เละขนาดนี้

ตอนนี้มันเละ เอาปุ้งกี๋โกยไม่ได้เลย

ผมรู้สึกอย่างนี้จริงๆ และผมคิดว่าที่ผมรู้ไม่ผิดหรอก

ถ้ามันดีจริง มันจะมีเรื่องพวกนี้ได้ยังไง

คนที่มีอำนาจก็ใช้อำนาจ

แบบหาประโยชน์เข้าตัวเองเป็นสำคัญ

อะไรที่มันผิดกฎหมายที่แม่งสีเทามันเล่นมั่วกันไปหมด


เอาน่า อย่าคุยต่อเลย

คุยแล้วคุณจะประสาทกินเปล่าๆ ผมบอกให้

ผมอินทรีย์แข็งแกร่ง รับเรื่องพวกนี้ได้

คุยได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่คุณมาคุยกับผม

ผมคุยแบบนี้ให้ฟัง คุณอย่าเสียกำลังใจกัน

แต่ผมบอกเลยว่า

คนรุ่นผมเป็นรุ่นที่ทำให้ประเทศล้มเหลว

คนในรุ่นเดียวกับผมอาจจะไม่คิดแบบผมนะ

แต่ผมคิดอย่างงี้ เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน


คุณคิดดูประเทศไทยตอนนี้

รายได้ต่อหัวต่อคนต่อปี 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

(ปีละ 243,390 บาท /ค่าเงิน ณ 29 พ.ค.66)

ถ้าคุณจะเป็นประเทศที่มีรายได้ขึ้น

สูงต้องราว 20,000

คุณต้องถีบตัวอีกราว 14,000 เหรียญต่อคนต่อปี

ต้องเพิ่มอีก 200 % ผมยังนึกไม่ออกเลยมันจะทำยังไง

รุ่นผมนี่เก็บสะสมไว้ อยู่ได้ ไม่มีปัญหาหรอก

แต่มันก็อยู่กินอย่างเดียว ไม่ทำแล้ว

ใกล้จะกินอย่างเดียว ไม่ทำแล้ว

กินใช้ กินใช้ไปจนตาย

และเสือกอายุยืนอีกคนรุ่นนี้ (หัวเราะ)

นอกจากมันไม่ทำงานแล้วมันยังรับประทาน (แดก) อีก

ยิ่งไม่แบ่งใครเลย มันกลัวหมดก่อนมันตาย


คนที่เป็นกำลังของชาติ

แม่งขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหารกันหมดแบบนี้ ตายห่าแล้ว

ใช่มะ เกลื่อนเมืองไปหมดเลย

เฮ้ย คนมีกำลังวังชา คนอายุ 20 ต้นๆ

เอาไปทำบ้าบอคอแตกอะไรกันหมดวะประเทศนี้

เหนื่อยนะ ไม่ใช่ไม่เหนื่อย

แต่ถามว่าเขามีทางเลือกอื่นมั้ย เขาไม่มี

แสดงว่ามันมีอะไรผิดพลาด


คุยแล้วอย่ากลัวก็แล้วกันเวลาผมพูดอะไร

นี่แหละข้อคิดจากคนรุ่นล้มเหลว (หัวเราะ)

ขอบพระคุณ!


มันไม่มีความน่าภูมิใจอะไรเลย คุณณัฐพงษ์

ผมบอกตามตรงเลยนะ

แม่งล้มเหลวซ้ำซาก


คุณณัฐพงษ์เสริมว่าไม่ชอบคำนึงที่บอกว่า

"ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"


อาจารย์สวน (พูดพร้อมหัวเราะ)

"ไม่มี๊! เขาเรียกว่าลิพเซอร์วิส (Lip Service)

บริหารด้วยปาก ดีแต่พูด พูดแล้วมันดูดี

เราน่ะชอบกันมากเลย พูดอะไรให้มันดูดี

แต่ทำให้มันดีน่ะ ทำไม่ได้

แม่ง มีแต่มักง่ายเอาแต่ได้ร้อยละ 90

...............................


จบครับ วันนั้นได้ฟังสด คิดเลยว่ามันดีจริงๆ

สมัยก่อน เราจะได้ฟังอะไรดีๆ แบบนี้ตอนต้นชั่วโมง

อาจารย์จะบอกเสมอว่าไม่ได้เตรียมหัวข้อจะมาพูด

มาถึงก็ใส่เลย เป็นไปตามอัตโนมัติ

เนื้อๆ เน้นๆ

และบ่อยครั้งที่อาจารย์จะพูดอะไรเฉียบๆ โดนใจคนฟัง

จนหลายคนต้องโทรมาชมในวันนั้นๆ


ถ้าข้อความนี้จะถึงทางรายการหรือคุณณัฐพงษ์

อยากถือวิสาสะบอกว่าถ้าเจอช็อตเด็ดแบบนี้

บอกเจ้าหน้าที่ตัดเก็บไว้

แล้วเอามาเปิดให้ฟังกันอีกที อาจรวมสายเดือดๆ

Service ผู้ฟังที่ชอบให้อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านด้วยก็ได้

คล้ายสมัยคุณเล็ก วงศ์สว่างทำช็อตเด็ดไว้

แต่นี่เป็นช็อตเด็ดโดยคุณณัฐพงษ์

เอาไว้เปิดตอนอาจารย์ไปเที่ยวสั้นๆ

เสริมจากที่เปิดมหาภารตะและคุยเฟื่องชุดอมตะอื่นๆ

ก็น่าจะดีไม่น้อยครับ คนฟังได้ประโยชน์


ด้วยความนับถือ 🐜


อย่างที่อาจารย์บอก เมื่อได้รับข้อมูลอะไรมา

สงสัยก่อนว่า "จริงหรือ"

ค้นหาข้อมูลดีๆ ก่อนเชื่อ


ฟังนาทีที่ 1:05:45 ไปครับ

(คนรุ่นล้มเหลว)


รายละเอียดรายการ

คุยได้คุยดี ฟังสดได้ที่คลื่น 96.5 FM.

ผ่านแอปฯ เว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ก FM 96.5

ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ บ่ายสองถึงสี่โมง

โทร 022481657 และมีรีรันตอนตี 2 ถึง ตี 4


Fun factคืนแรกที่อาจารย์นอนค้าง

ที่อาศรมฯ คือ 20 ก.ค. 2562 หลังรอปีครึ่ง


ทุกคำพูดมีที่มา ทุกเจตนาสร้างเหตุ: ลูกมด



...................................

👄🧵👄👍

บทความอื่นๆ [คลิกได้เลย]

👇





















วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

อังกฤษปุ๊กปิ๊ก 6 : Spinach แปลว่าปวยเล้ง ไม่ใช่ผักโขม! ผักโขมหัด actually

 

ความผิดพลาดน่าจะมาจากการ์ตูนเรื่องป๊อปอาย

ที่แปล Spinach ว่า "ผักโขม"



ผักโขม (หัด) - Slender amaranth

หรือ Green amaranth

(Fun fact ผักโขมที่เราคุ้นตา นั่นคือผักโขมหัด)

หน้าตาผักโขมตามภาพด้านล่าง


Slender amaranth -ผักโขมหัด


Green amaranth - ผักโขมหัด


...........................................

🍃🌿🍆🍅🍄🍐🍒🍓

ปวยเล้ง - Spinach

หน้าตาก็ตามภาพด้านล่างครับ




Spinach - ปวยเล้ง
💪



สรุปคือ Spinach - ผักปวยเล้ง

Slender amaranth - ผักโขม


ทูบีแฟร์ อาจด้วยสมัยนั้น

คนรู้จักผักโขมมากกว่าปวยเล้ง

หรือหน้าตามันคล้ายกันก็เลยแปลแบบนั้น

แต่ถ้าแย่หน่อย ข้อมูลมันมีแค่นั้น

และนักแปลแปลผิดจริงๆ


ศัพท์นี้แปลผิดบ่อยมาก และเข้าใจผิดกันมาจนชิน

(อย่างน้อยก็ในอินเทอร์เน็ต แม้จะมีเว็บที่ถูกต้องบ้าง)

คิดว่าถูก แต่ฝรั่งไม่เข้าใจผิดด้วยนะครับ

ถ้าฝรั่งพูดว่า

Once the pan is heated, carefully place

slender amaranth and spinach into it.

คุณจะแปลว่า "พอน้ำมันร้อนแล้ว

ก็ค่อยๆ ใส่ผักโขมและผักโขมลงไป"

แบบนี้ไม่ได้!


เรื่องการแปลจะหยวนๆ ไม่ได้ ผิดคือผิด

มันต้องแปลให้ถูกต้องว่า

"พอน้ำมันร้อนแล้ว

ก็ค่อยๆ ใส่ผักโขมและปวยเล้งลงไป"



เอาจริงมันก็มีการแปลผิดแบบนี้เรื่อยๆ

สำคัญคือเมื่อผิดแล้วควรแก้

ให้สังคมโดยรวม "เข้าใจถูกต้อง"

มันควรมีองค์กรที่เป็นเสาหลัก

เป็นบรรทัดฐาน เป็นที่พึ่งในเรื่องนี้

องค์กรที่ได้เรื่องจริงๆ ทำงานเป็น จัดการเก่ง


ไม่มีการแปลใดสมบูรณ์แบบ: สํ


อังกฤษปุ๊กปิ๊ก 6 : Spinach แปลว่าปวยเล้ง ไม่ใช่ผักโขม! ผักโขมหัด actually

อังกฤษปุ๊กปิ๊กตอนอื่นๆ
👇






วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

คำถามและข้อสงสัยใน Beau Is Afraid (สปอย)

 

"โบอย่าไปกลัว" เข้าโรงวันนี้ 25 พ.ค. 66

แต่ในอเมริกาเข้าตั้งแต่เมษายน



เรื่องย่อ โบต้องเดินทางไปเยี่ยมแม่

เพราะมันเป็นวันครบรอบวันตายของพ่อเขา

แต่ดันเกิดเหตุวุ่นวายก่อนเดินทาง

ทำให้เขาต้องผ่านเหตุการณ์ใหญ่ๆ

สองเหตุการณ์ (องก์)

ต้องไปดูในหนังว่าเมื่อถึงบ้าน

โบต้องเจอเหตุการณ์สุดช็อกอะไรบ้าง

ปมที่แม่ฝังใส่หัวเขา

ซึ่งทำให้เขากลัวมาทั้งชีวิตคืออะไร

เส้นหลักคือความรัก ความกลัว ความคาดหวัง

ความพิลึก วามเพี้ยน ความหลอน

การผจญภัย ความตลก วามเห็นแก่ตัว




หนังมีอะไรให้ตีความมากมาย

เป็นหนังที่ "อร่อยมาก" เรื่องนึง

แต่แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนจะชอบหนังเรื่องนี้

หลายคนบ่นว่าหนังยาวไป ราว 3 ชั่วโมง

แต่สำหรับผมโคตรบันเทิง!


..................................

เอาล่ะ มาเริ่มพูดถึงเนื้อเรื่องกัน

ขอเตือนว่ามีสปอย!

(เราจะตัดประเด็นว่าโบฝันหรือโบมโนไปก่อน

คิดว่าเรื่องราวทั้งหมดในเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ)


ข้อสงสัย ?

-โบมีแฝดรึเปล่า

-ฉากไหนเป็นความจริง ฉากไหนมโน

-พ่อของโบคือปีศาจหำ Starship Troopers จริงเหรอ

-ฉากในบ้านโรเจอร์กับเกรซ ทำไมในทีวีมีภาพอนาคต

-ผู้ชายแก่ๆ ในป่าใช่พ่อโบรึเปล่า


[ โบมีแฝดรึเปล่า ]

ฉากแรกของหนังคือฉากโบเกิด

จุดสังเกตคือโบเกิดคนเดียว ไม่มีจุดไหนบ่งบอกว่า

โบมีฝาแฝด และโบเกิดมาพร้อมลูกอัณฑะใหญ่ๆ


โบบอกว่าฝันถึงเด็กคนนึงที่เหมือนเขา

เด็กคนนั้นถามหาพ่อ ดื้อกับแม่

แม่โกรธจึงขังเขาไว้ห้องใต้หลังคา

และไม่พูดถึงเด็กคนนั้นอีกเลย

สุดท้ายแม่โบบอกว่าแกคิดว่าเป็นความฝัน

แต่นั่นมันความทรงจำ ไม่ใช่ฝัน

แบบนี้สื่อว่าโบมีฝาแฝด ?


และตอนโบถูกแม่ขังไว้ห้องใต้หลังคา

โบเห็นปีศาจจู๋กับแฝดของเขาอยู่ในมุมห้อง

แสดงว่าโบมีฝาแฝดจริง ?


ตอนทนายโคเฮนพูดในงานศพแม่โบ

เขาพูดถึงโบว่า her surviving son

นั่นแสดงว่าโบมีฝาแฝดหรือพี่น้อง แต่ตายไป

เหลือแค่โบ?


สรุป โบมีแฝดมั้ย มัน 50-50

แต่ผมเชื่อว่าโบมีแฝดนะ คนที่โบเห็นในห้องใต้หลังคา

เพราะแม่โบก็บอกว่าแกรู้มั้ยว่ายากแค่ไหน

กว่าฉันจะมีแก สื่อว่ามีอะไรกับปีศาจจู๋ ?



[ ฉากไหนเป็นความจริง ฉากไหนมโน ]

อะพาร์ตเมนต์ที่โบอยู่น่าจะเป็นของแม่โบ

แม้แต่คนรอบกายโบทั้งเรื่องก็ถูกจ้างโดยแม่โบ

(ดูจากรูปโรเจอร์และคนอื่นๆ ติดในบ้านแม่โบ)


เมืองที่โบอยู่ดูวุ่นวายไปหมด น่าจะเป็นยุคที่คนเพี้ยน

โลกวุ่นวายเต็มที


เราจะเห็นว่าจิตแพทย์เอายาตัวใหม่ให้โบมากิน

ซึ่งยาตัวนี้ต้องกินน้ำตามทุกครั้ง

โบอยู่ในท้องแม่ก็อยู่ในน้ำคร่ำ

กินยาก็ต้องกินกับน้ำ ฉากจบก็โดนน้ำพุ่งใส่เรือ

คล้ายตอน ogasm แล้วน้ำพุ่ง

และตอนเกิดโบไม่ร้องเพราะมีน้ำอุดในคอหรือปอด

พยาบาลดูดน้ำออกถึงร้องได้

ตอนจบโบจมน้ำ น้ำกลับไปอยู่ในปอดเหมือนเดิม


ส่วนตัวเชื่อว่าทั้งหมดเกิดขึ้นจริงๆ

มีฉากมโนฉากเดียวคือที่โบหลอนว่า

จะมีผู้ชายตัวโตมาถีบประตูแล้วรีบดันโซฟาบังไว้


[ พ่อของโบคือปีศาจหำ Starship Troopers จริงเหรอ ]

หลายคนในหลายเว็บบอกว่าปีศาจจู๋ไม่มี

เป็นสัญลักษณ์ความเป็นชายของโบ

ที่ถูกขังไว้ในห้องใต้หลังคา เพราะไปเถียงแม่


แต่ส่วนตัวผม เชื่อว่า "ปีศาจจู๋มีจริง"

พี่จีฟส์ อดีตทหารสุดคลั่งตุ้ยนุ้ย

ที่อยู่บ้านโรเจอร์กับเกรซ

แกก็ตามโบไปจนถึงห้องใต้หลังคา

และมีดแทงไข่ของปีศาจจู๋และโดนดูดสมองไป

ถ้าพี่จีฟส์มีจริง ปีศาจจู๋ก็ต้องมีจริง มันเชื่อมกัน




[ฉากในบ้านโรเจอร์กับเกรซ ทำไมในทีวีมีภาพอนาคต]


ข้อนี้ บ่องตง "ไม่รู้ งงเหมือนกัน"

ฉากนี้คือเกรซสงสารโบที่โดนแม่ทำแบบนี้

เกรซก็น่าจะโดนแม่โบจ้างมา?

แต่ที่แน่ๆ โรเจอร์เป็นลูกน้องแม่โบ มีรูปติดในบ้าน

ด้วยความเห็นใจโบ เกรซจึงแอบบอกโบ

ให้เปิดทีวีไปช่องนึง จนเห็นภาพตัวเองในบ้าน

ที่ถูกถ่ายเอาไว้ พอโบฟอร์เวิร์ดคลิปไป

มันดันมีภาพในอนาคตของโบโผล่ในทีวีช่องนั้น

งงมาก อันนี้ใครรู้ช่วยบอกที


[ ผู้ชายแก่ๆ ในป่าใช่พ่อโบรึเปล่า ]


ชายแก่ในป่าคนนี้บอกโบว่าเคยเอาอาหาร

มาให้ปีศาจจู๋หลังจากโบเกิด

(แต่ไม่พูดถึงฝาแฝดโบแฮะ)

โบเลยงงว่าเป็นไปไม่ได้สิ พ่อตายตอนโบปฏิสนธิ

พอ ogasm (น้ำแตก) ก็ตายคาตัวแม่เลย

ลุงจะเจอพ่อผมหลังจากผมเกิดได้ไง


จากนั้นลุงก็ตัดบท บอกว่าดีใจที่ได้เจอโบแล้วเดินหนี

และฉากที่เอเลนตายหลังจากมีเซ็กซ์กับโบ

แม่ของโบก็โผล่มา บอกว่าให้เอาศพเอเลน

ไปโยนให้แฮร์รี่กิน

(แฮร์รี่คือพ่อของโบ มีป้ายชื่ออยู่ในบ้าน)


จากทั้งหมดจึงเชื่อได้ว่าชายแก่ในป่าไม่ใช่พ่อโบ


......................................

อย่างที่บอกว่าหนังเรื่องนี้อร่อยมาก

นักแสดงเก่งทุกคน วาคีน ฟินิกซ์ทุ่มสุดตัวจริงๆ

น้อง Armen Nahapetian ที่แสดงเป็นโบตอนวัยรุ่น

ออกนิดเดียว แต่ชอบมาก แสดงดี

ชอบวิธีการพูดที่วาคีนใช้ในเรื่อง การใช้เสียง


มันคงเป็นที่พูดถึงอีกเรื่อยๆ

ถ้าคนเก่งเรื่องสัญญะก็จะมองเห็นมากมาย

แล้วแต่ข้อมูลที่มีและการปะติดปะต่อ

(อย่างฉากโบโดนคนเร่ร่อนแก้ผ้าแทง

อาจมองว่าเหมือนพระเยซู

โดนแทงน่าจะจุดเดียวกัน สามวันก็ตื่น

เหมือนการคืนชีพของจีซัส)


แต่หัวใจหลักของหนังคือความบันเทิง

และสาระที่หนังให้กับเรา

ถ้าหนังดึงเราเข้าไปได้

ทำให้เราอยากติดตาม เอาใจช่วย

ผูกพันกับตัวละคร ไม่น่าเบื่อ ดูได้เพลินๆ

นั่นคือการประสบความสำเร็จระดับนึง


ถ้าเราดูแล้วเอามาคิดต่อ ฉุกคิด เอามาปรับใช้

เปลี่ยนความคิดเราไปในทางที่ดี

หรือให้แรงบันดาลใจอะไรสักอย่าง

นั่นคือคุณค่าและสาระของหนังจริงๆ


สรุปหนังเรื่องนี้มันพูดถึงแม่ที่คาดหวังกับลูก

อยากได้ความรัก หวง ขาดความอบอุ่น

ใช่ครับ! "แม่ผู้ขาดความอบอุ่น"

บงการชีวิตลูกทุกอย่าง

แต่มันคือความเห็นแก่ตัวรูปแบบนึง

สุดท้ายลูกเครียด หนีจากแม่ ห่างเหินกัน

จนมีอาการทางจิต ชีวิตพัง


แต่ทั้งหมดก็เป็นแค่การมองบางมุม

เท่าที่บริบทในหนังมันให้เรา

แท้จริงแล้วชีวิตเรา

รายละเอียดจริงๆ มันยิบย่อยมากกว่า



โมนา แม่ของโบ ประสบความสำเร็จในอาชีพ

ถ้ามองภายนอกก็ดีพร้อม สมบูรณ์มีทุกอย่างครบ

แต่ความจริงแล้ว ใจพัง ชีวิตไม่ได้สุขอย่างที่เห็น


สำหรับโบ ชีวิตภายนอกแย่ จิตใจก็แย่

เป็นมนุษย์ที่ไม่มีความสุขเลย

วิธีการเลี้ยงของแม่และการปลูกฝัง

ทำลายเขาทั้งชีวิต ทำให้เป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ

ชีวิตพังจนวาระสุดท้าย


โบชอบให้อาหารปลา

ก่อนไปหาจิตแพทย์เขาก็แวะให้อาหารเป็ด

และซีนที่ชอบมากคือตอนโบบอกเอเลนว่า

"ผมรอคุณ เพราะคุณบอกให้ผมรอ"



ถ้านับโดยพื้นฐานจิตใจแล้ว

แม้โบจะกลัว ไม่ปกติ มีอาการทางจิต

แต่จิตใจเขาไม่ได้แย่





"ความเลว" ใครทำแม่งก็เลว: พันธุละ


บทความน่าสนใจอื่นๆ






.......................................






.......................................

แปลเพลง Fifteen - Taylor Swift

แปลเพลง Fearless - Taylor Swift


แปลเพลง Heather - Conan Gray

แปลเพลง Glimpse of Us - Joji

แปลเพลง If I Die Young - The Band Perry


แปลเพลง Belle of the Boulevard - Dashboard Confessional

แปลเนื้อเพลง I Dreamed a Dream - Les Miserables

แปลเพลง Alone Again (Naturally) - Gilbert O'sullivan


แปลเพลง I'd Do It Again - Violette Wautier

แปลเพลง The Scientist - Coldplay

แปลเพลง You're The One That I Want - John Travolta And Olivia Newton John

แปลเพลง She: Elvis Costello (Notting Hill)


รายละเอียดของบล็อก

The Translators - อังกฤษปุ๊กปิ๊ก

แปลเพลงสากล | จับผิดคำแปล

เรียนอังกฤษจากหนังและซีรีส์

คุยได้คุยดี-วีระ ธีรภัทร | อังกฤษปุ๊กปิ๊ก | EveryEng

การแปลผิดใน Netflix, Disney + Hotstar

นักแปลซับไตเติล


#แปลเพลงดัง #แปลงเพลงTaylorSwift

#แปลเพลงOneDirection #แปลผิดในNetflix

#แปลผิดในDisneyPlusHotstar

#การแปล #งานแปล #นักแปล #แปลเพลงสากล

#ภาษาอังกฤษ #เรียนภาษาอังกฤษ

#คุยได้คุยดี #วีระธีรภัทร #ณัฐพงษ์ธีระภัรทรานนท์

#คุยได้คุยดีTalkNewsandMusic


วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

แปลเพลง Ode To My Family - The Cranberries: สํ

 



Ode To My Family - เพลงเชิดชูครอบครัวของฉัน

เพลงนี้เศร้านะ

มันเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว

ไม่เข้าใจกัน ไปใช้ชีวิตของใครของมัน

กลับมาเจอกันก็ต่อไม่ติดแล้ว

"ความสนิทคือญาติอย่างยิ่ง"


เพลงนี้บ้างก็ตีความว่าเกี่ยวกับการเมือง

บ้างก็ว่าเกี่ยวกับโดโลเรส (Dolores O'Riordan)

(นักร้องนำ) ที่โดนพ่อข่มขืน

ดูจากท่อน My father he liked me

ทำไมไม่ใช้คำว่า love แต่ใช้ like

แต่หลายเว็บบอกว่าคนที่ข่มขืนเธอ

คือคนที่รู้จักกับครอบครัว

ไม่ใช่พ่อของเธอ


ดังนั้นผมจะแปลตามตัวเลยครับ

มันคือ "เพลงจากน้องสาวคนเล็กถึงพี่ๆ"

โดโลเรสมีพี่สาว 1 คน พี่ชาย 5 คน

(โดโลเรสน้องสุดท้อง)



.........................................

Understand the things I say

Don't turn away from me

'Cause I spent half my life out there

You wouldn't disagree

โปรดเข้าใจสิ่งที่ฉันพูด

อย่าหันหน้าหนี

เพราะฉันออกไปใช้ชีวิตข้างนอกมาครึ่งชีวิต

พี่ๆ ก็คงเห็น


D'you see me?

D'you see?

Do you like me?

Do you like me standing there?

พี่ๆ เห็นฉันมั้ย

เห็นตัวตนฉันมั้ย

พี่ๆ ชอบฉันมั้ย

ชอบมั้ยที่ฉันมายืนต่อหน้าตรงนี้


D'you notice?

D'you know?

Do you see me?

Do you see me?

Does anyone care?

พี่ๆ สังเกตเห็นมั้ย

รู้บ้างมั้ย

พี่ๆ เห็นฉันมั้ย

เห็นตัวตนฉันมั้ย

มีใครแคร์บ้างมั้ย


Unhappiness

Where's when I was young

And we didn't give a damn

'Cause we were raised

To see life as fun

And take it if we can

การไม่มีความสุข

เมื่อยามฉันยังเด็ก

และเราเพิกเฉยต่อมัน

เพราะเราถูกเลี้ยงมา

ให้มองชีวิตเป็นเรื่องสนุก

และสนุกกับมันให้มากที่สุด


My mother

My mother she'd hold me

She'd hold me

When I was out there

My father

My father he liked me

Oh, he liked me

Does anyone care?

แม่ของฉัน

แม่ของฉัน ท่านโอบกอดฉัน

ท่านโอบกอดฉัน

เมื่อฉันไปใช้ชีวิตข้างนอก

พ่อของฉัน

พ่อของฉัน ท่านชอบฉัน

โอ้ ท่านชอบฉัน

มีใครแคร์บ้างมั้ย


Understand what I've become

It wasn't my design

And people everywhere think

Something better than I am

โปรดเข้าใจตัวตนฉันในตอนนี้

ประสบการณ์หล่อหลอมมัน หาใช่ฉัน

และผู้คนทุกที่มองฉันดีกว่าที่ฉันเป็นจริงๆ

(ยกย่องฉันดีเกินจริง)


I miss you

I miss 'cause I liked it

'Cause I liked it

When I was out there

ฉันคิดถึงพี่ๆ

ฉันคิดถึงเพราะฉันชอบมัน

เพราะฉันชอบตอนที่ฉันอยู่ข้างนอกนั่น

(you ในที่นี้ไม่ชัดเจนว่าหมายถึงใครแน่)


D'you know this?

D'you know?

You did not find me

You did not find

Does anyone care?

พี่ๆ รู้เรื่องนี้มั้ย

พี่ๆ รู้มั้ย

พี่ๆ ไม่ได้ตามหาฉัน

ไม่ได้ตามหาเลย

มีใครแคร์บ้างมั้ย


Unhappiness

Where's when I was young

And we didn't give a damn

'Cause we were raised

To see life as fun

And take it if we can

การไม่มีความสุข

เมื่อยามฉันยังเด็ก

และเราเพิกเฉยต่อมัน

เพราะเราถูกเลี้ยงมา

ให้มองชีวิตเป็นเรื่องสนุก

และสนุกกับมันให้มากที่สุด


My mother

My mother she'd hold me

She'd hold me

When I was out there

My father

My father he liked me

Oh, he liked me

Does anyone care?

แม่ของฉัน

แม่ของฉัน ท่านโอบกอดฉัน

ท่านโอบกอดฉัน

เมื่อฉันไปใช้ชีวิตข้างนอก

พ่อของฉัน

พ่อของฉัน ท่านชอบฉัน

โอ้ ท่านชอบฉัน

มีใครแคร์บ้างมั้ย


Does anyone care?

Does anyone care?

Does anyone care?

Does anyone care?

Does anyone care?

Does anyone care?

Does anyone care?

มีใครแคร์บ้างมั้ย...


.......................................................

เนื้อเพลง: Youtube music

ตัวช่วยการแปล: ChatGPT


ไม่มีการแปลใดสมบูรณ์แบบ: สํ


🎵 🎵 🎵

เพลงแปลไทยอื่นๆ [คลิกชื่อเพลง]

👇

แปลเพลง Boat - Ed Sheeran

แปลเพลง Lavender Haze - Taylor Swift

แปลเพลง Fifteen - Taylor Swift

แปลเพลง Fearless - Taylor Swift


แปลเพลง Heather - Conan Gray

แปลเพลง Glimpse of Us - Joji

แปลเพลง If I Die Young - The Band Perry


แปลเพลง Belle of the Boulevard - Dashboard Confessional

แปลงเพลง Photo - Ryan Cabrera

แปลเนื้อเพลง I Dreamed a Dream - Les Miserables

แปลเพลง Alone Again (Naturally) - Gilbert O'sullivan


แปลเพลง I'd Do It Again - Violette Wautier

แปลเพลง The Scientist - Coldplay

แปลเพลง Overjoyed - Matchbox Twenty

แปลเพลง Savin' Me - Nickelback


แปลเพลง You're The One That I Want - John Travolta And Olivia Newton John

แปลเพลง Nobody Compares - One Direction

แปลเพลง She: Elvis Costello (Notting Hill)


แปลเพลง In My Blood - Shawn Mendes

แปลเพลง Someone You Loved - Lewis Capaldi

แปลเพลง This Town - Niall Horan

แปลเพลง Lift Me Up - Rihanna [Black Panther: Wakanda Forever]


รายละเอียดของบล็อก

The Translators - อังกฤษปุ๊กปิ๊ก

แปลเพลงสากล | จับผิดคำแปล

เรียนอังกฤษจากหนังและซีรีส์

คุยได้คุยดี-วีระ ธีรภัทร | อังกฤษปุ๊กปิ๊ก | EveryEng

การแปลผิดใน Netflix, Disney + Hotstar

นักแปลซับไตเติล


#แปลเพลงดัง #แปลงเพลงTaylorSwift

#แปลเพลงOneDirection #แปลผิดในNetflix

#แปลผิดในDisneyPlusHotstar

#การแปล #งานแปล #นักแปล #แปลเพลงสากล

#ภาษาอังกฤษ #เรียนภาษาอังกฤษ

#คุยได้คุยดี #วีระธีรภัทร #ณัฐพงษ์ธีระภัรทรานนท์

#คุยได้คุยดีTalkNewsandMusic