ค้นบทความอื่นๆ

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565

จดหมายจากน้าเล็ก วงศ์สว่างถึงอ.วีระ - คุยกันจันทร์ถึงศุกร์

 


"มึงเชื่อไหม รายการวิทยุเมืองไทย

มีอยู่รายการเดียวว่ะที่คนจัดสั่งให้คนฟัง

ตบปากตัวเองได้ แล้วคนฟังแม่งก็ตบจริงๆ"




อ.วีระพูดว่า "ผม... เดี๋ยวผมขอตั้งหลักนิดนึง

เพราะว่าตรงหน้าผมมันมีหลายเรื่อง

โดยเฉพาะนี่ เป็นถุงมาถุงใหญ่เลยนะฮะ

ยังไม่รู้ว่าคืออะไรนะฮะ ขออนุญาตใช้...

คัตเตอร์ตัดนะฮะ เป็นห่อของขวัญห่อเบ้อเร่อเลยนะฮะ

หวังว่าคงไม่เป็นระเบิดนะครับ

คือผมเห็นจ่าหน้าซองเนี่ย

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่อันตราย

คือเขาเขียนว่าอาจารย์วีระ ธีรภัทร FM 97.0

จากคุณเล็ก วงศ์สว่าง

มีใครที่เป็นแฟนรายการเพลงเมื่อสัก 30 ปีที่แล้ว

ต้องรู้จักนะฮะ เดี๋ยวนี้ยังอยู่หรือเปล่าก็ไม่ทราบ

แต่คิดว่าคงยังอยู่ เพราะว่าส่งของมาให้

น่าจะยังมีชีวิตอยู่

คุณเล็ก วงศ์สว่าง สมัยก่อนเขาจะมีหนังสือฮิตๆ

ชื่อว่าไอเอสซองฮิต (I.S. Song Hits)

เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่ายังทำอยู่หรือเปล่า

นี่เขาก็ส่งของมาให้ ผมไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ ขอขอบพระคุณไว้ก่อนก็แล้วกัน

ก็รู้แน่ๆ ว่าไม่ใช่ระเบิด


คุณเล็ก วงศ์สว่างนี่น่าจะน้านะ คิดว่าคงไม่ใช่พี่

น่าจะเป็นระดับน้า"


ข้อความในจดหมาย

"เรียนอาจารย์วีระที่นับถือ

อ.เสริม "เป็นจดหมายที่เขียนมาวันนี้นะฮะ 1 สิงหาคม"

รายการวิทยุที่พูดมากกว่าเปิดเพลง

ในอดีตคือรายการของนายหนหวย

ไม่ว่าแกจะไอ จะจามหรือตด... (หัวเราะโดยพยายามกลั้น)

ไม่ว่าแกจะไอ จะจามหรือตดออกอากาศ

(หัวเราะราว 5 วินาที)

พี่เล็ก วงศ์สว่างทำเอาผมนั่นเลย

ไม่ว่าแกจะไอ จะจาม จะตดออกอากาศ

คนฟังรับได้ทั้งนั้นตามวิธีของแก

เช่น ถ้าแกไอหรือจามออกอากาศ

เพราะคอนโทรลปิดสวิตช์ไม่ทัน แกก็จะพูดว่า

วันนี้คงคอไม่ค่อยดี มันต้องล่อยาแก้ไอโยคีซะหน่อย

หรือบางหวั่น... (หัวเราะ) หรือบางวันแกตดออกอากาศ

เสียงดังปู้ดป้าด (อ่านไปหัวเราะไป)

แกก็จะพูดว่าวันนี้ท้องไส้มันไม่สามัคคี

ต้องซัดยาธาตุน้ำแดงของโยคีทองพูนซะหน่อย

ของเขาดีจริงๆ ว่าแล้วแกก็ยกยาขึ้นซด

เรียกว่าแกออกอาการอะไร (กลั้นหัวเราะ)

คนฟังก็ไม่ถือสา... (หัวเราะเพราะกลั้นไม่อยู่)

โอ๊ แกเขียนอะไรมาให้ผมหัวเราะขำนะ


ขอบคุณมากพี่สาลี่ พี่สาลี่เอากาแฟมาให้ทาน


แต่วันนี้คือยุคนี้รายการคุยกันจันทร์ถึงศุกร์

กับวีระ ธีรภัทรเหนือกว่าหลายขุม

ผมแอบติดตามฟังมาตลอดทุกบ่าย ตอนนี้ถึงเย็น

ที่ชอบและบอกได้เลยว่า

มันส์กว่านายหนหวยหลายสิบเท่า

เพราะมันเป็นรายการตามใจผู้จัดที่มีสาระประโยชน์

ใครไม่อยากฟังก็หมุนไปฟังที่อื่น

คือใช้เท้าหมุนไปฟังที่อื่น (หัวเราะพลางอ่านต่อว่า)

ถ้ามือไม่ว่างจริงๆ


ชีวิตการเป็นนักจัดรายการของผม

ผมยังไม่กล้าทำในสิ่งที่คุณวีระทำ

นั่นคือเอาจดหมายด่าของคนฟังมาออกอากาศ

เพิ่มความเคืองแค้นให้แฟนรายการได้... (หัวเราะ)

เป็นผมหรือนักจัดทั่วไป แค่ขยำทิ้งก็จบ

วิทยุไม่มีใครรู้ใครเห็น

แต่มันก็เป็นจดหมายไม่มีที่อยู่หรือบัตรสนเท่ห์

แต่คุณวีระกลับเอามาอ่านจนจบ

แล้วก็ตอบได้สะใจยิ่งไปกว่านั้น

ผมนึกๆ แล้วขำจนถึงทุกวันนี้

และทุกครั้งที่เล่าให้พรรคพวกฟัง

"มึงเชื่อไหม รายการวิทยุเมืองไทย

มีอยู่รายการเดียวว่ะที่คนจัดสั่งให้คนฟัง

ตบปากตัวเองได้ แล้วคนฟังแม่งก็ตบจริงๆ

ตบไม่ดังสั่งให้ตบใหม่ (หัวเราะ)

โอ๊ย พี่เล็ก วงศ์สว่างทำให้ผมหัวเราะตายเลย

ตบจนดังชัดเจน แล้วผมก็เล่าให้พรรคพวกฟัง

ถึงสาเหตุที่ต้องตบปากตัวเอง

เพราะโทรมาคุยกับรายการ

แต่ดันไปพาดพิงบุคคลที่สาม ทำให้เขาเสียหาย

และตอบโต้ไม่ได้ คนจัดเลยทำโทษ

ขอโทษอย่างเดียวไม่พอ ต้องตบปากตัวเอง

ปากเสีย ไม่งั้นห้ามโทรเข้ามาคุยกับรายการ

ถ้าคนฟังแกล้งตบขา คนจัดก็มองไม่เห็น

แต่คนฟังแม่งตบปากจริงๆ ตามคำสั่งว่ะ

พรรคพวกหัวเราะกันตรึม ขนาดคนพูดไม่ชัด... (หัวเราะ)

ขนาดคนพูดไม่ชัดยังเป็นขาประจำกันได้

พรชัยก็เก๋ไปอีกแบบนึง (หัวเราะ)

วันนี้นึกครึ้มๆ เพราะใกล้วันตายของเอลวิส

(ผมค้นดู เอลวิสตาย 16 สิงหาคม 2520)

นึกถึงรายการคุยกันจันทร์ถึงศุกร์เลยฝากซีดี

สุดยอดเพลงที่ไพเราะของเอลวิสมาให้

จริงอยู่เพลงเอลวิสมีทั้งหมด 700 เพลง

แต่เพลงที่เพราะที่สุดและคนฟังยุคนั้นชอบที่สุด

ก็มีแค่ที่ส่งมาให้นี่แหละ

อาจารย์เสริม "แต่ที่ส่งมาให้นี่ก็เยอะแล้วนะครับ"


ต้องขออภัยด้วยถ้าบางเพลงมีเสียงสแครช

เพราะอัดจากแผ่นทั้งซิงเกิลและก็ LP

อาจารย์เสริม "LP นี่คือ Long Play นะฮะ"

ที่สะสมไว้ ไม่ได้ก๊อบปี้จากซีดี

คืออยากได้บรรยากาศสมัยเป็นนักจัดโดยใช้แผ่นเปิด

สมัยนั้นแผ่นตกร่องบ้าง เปิดผิดสปีดบ้าง

มีเสียงฝนตกบ้าง มานั่งนึกๆ มันก็แปลกดีนะ

แต่ยุคนี้ฟังอาจารย์วีระพูด มันส์กว่าฟังเพลงเยอะ

จะติดตามไปเรื่อยๆ

อย่าเพิ่งรีบถอดใจ เลิกจัดรายการเสียก่อนล่ะ


ขอแสดงความนับถือ

เล็ก วงศ์สว่าง


จบจดหมาย


ขอบคุณ... ผมต้องเรียกว่าคุณน้ามากกว่านะฮะ

เรียกว่าพี่เล็กนี่คงไม่ได้ น่าจะเป็นคุณน้ามากกว่า



ข้อมูลจากวิกิพีเดียบอกว่า

คุณเล็ก วงศ์สว่างเกิด 10 เม.ย. 2485

เสียชีวิต 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553 (68 ปี)


เท่ากับคุณเล็กเป็นพี่อาจารย์ 15 ปี (อ.วีระเกิด 2500)


ถ้าใครมีซีดี Shot เด็ดอยู่ แผ่นที่ 2 นะครับ

เผื่ออยากเปิดฟังดูอีกรอบ


ทั้งหมดแค่การฟังและสรุปของผม

อาจมีขาดเหลือ ตกหล่น แต่คงน้อยมาก


"รู้อะไร ไม่สู้รู้จิต"

ลูกมด 26 ก.ย. 65

...................................

👄🧵👄👍

บทความอื่นๆ [คลิกได้เลย]

👇






















วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2565

ประมวล Shot เด็ด [1] คุยกันจันทร์ถึงศุกร์

 



อ้างอิงจากซีดี "ประมวล Shot เด็ด!"

คุยกันจันทร์ถึงศุกร์

อ.วีระ ธีรภัทร

สร้างสรรค์โดยคุณเล็ก วงศ์สว่าง

คุณเล็ก วงศ์สว่าง


เหตุเริ่มจากอาจารย์คุยกับคุณบ๊อบ

อ.วีระพูดถึงหนังสือที่นายกฯ ทักษิณในขณะนั้น

แนะนำในครม. แล้วอาจารย์เปรยว่า

"ไม่รู้ว่าคุณทักษิณอ่านทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบไหม

หรืออ่าน Summary หรืออ่านที่เขาทำ Synopsis ให้

ไม่รู้ อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ ไม่ได้แซวน

และไม่รู้ว่าคุณทักษิณหาเวลาที่ไหนมาอ่าน

เอาไว้เจอแล้วจะถามดู

ผมก็เป็นคนอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเร็วนะ

แต่ก็รู้สึกว่าแต่ละเล่มใช้เวลา

และเราไม่ได้มีภาระมากเหมือนท่านนายกฯ

เรายังอ่านไม่ไหว

มันต้องใช้สมาธินะ ไม่ใช่นึกอยากจะอ่านก็อ่าน

บางเล่มอ่านแล้วไม่เข้ามันก็เบื่อแล้วโยนทิ้งนะ"


และอาจารย์ก็พูดว่านายกฯ ทักษิณโคตรรวย

พร้อมอธิบายว่าคำว่าโคตรไม่ใช่คำหยาบ

(แล้วแต่บริบท)


จากนั้นคุณสมศักดิ์ก็โทรมา

เริ่ม!!!

(เพื่อกันความสับสนในบางประโยค

ตัวหนังสือสีแดง อ.วีระพูด)



"คุณสมศักดิ์ สายสาม สมศักดิ์ครับ สมศักดิ์"


- สวัสดีครับ

- เชิญครับ


"เมื่อกี้นี้ผมได้ยินอาจารย์บอกว่า

ท่านนายกฯ ทักษิณอ่านภาษาอังกฤษเองหรือเปล่า

ทำไมอ่านได้เร็วนักใช่ไหมครับ"


"ไม่ใช่ ผมไม่ได้พูดยังงั้นฮะ ไม่ได้พูดยังงั้นครับ

ไปเปิดเทปดู ไม่ได้พูดยังงั้น"


"ก็คืออย่างงี้ครับ

ผมเองก็เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ

เขามีวิธีอ่านให้เร็วครับ

อ่านหนังสือให้เร็วนั้นอ่านอย่างไร

นั่นประการนึง

และอีกประการนึง เมื่อกี้ผมได้ยินคุณธีระบอกว่า

(เรียกชื่ออาจารย์ผิด)

คำว่าโคตรเนี่ยไม่หยาบใช่ไหมครับ"


"ครับ"


- แปลว่ามากหรือ Very อะไรอย่างงี้ใช่ไหมครับ

- ครับ


"อาจารย์ธีระยังจำได้ไหมครับว่า

คุณยงยุทธ ติยะไพรัชเคยบอกว่า

การที่อดีตนายกฯ เนี่ย

บอกว่าเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์

เลียนักการเมืองจนกระทั่งขนหน้าแข้งติดปากเนี่ย"


- จำได้ไหมครับ ฮัลโหล

- ฮะ ๆ


- จำได้ไหมครับ จำได้นะฮะ

- ฮะ ๆ


"แล้วก็บอกต่อไปว่าถ้าหากว่าผมเป็นคนพูดประโยคนี้

คนก็จะบอกว่าผมอายุยังน้อย พูดอย่างนี้

เรียกว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน ใช่ไหมครับ จำได้ไหมครับ"


"แล้วยังไงครับ"


"แล้วก็ถ้าหากว่าเป็นอดีตนายกฯ ชวนพูด

จะเรียกว่าลูกโคตรพ่อโคตรแม่ไม่สั่งสอน

ยังงี้หยาบไหมครับ"


- ถ้าอย่างงี้หยาบครับ

- หยาบไหมครับ


- หยาบครับ

- หยาบเหรอฮะ


"ถ้าอย่างงี้หยาบ ต้องดู Context มันสิฮะ

ต้องดูบริบทมันสิครับ อาจารย์สมศักดิ์ครับ

อาจารย์ต้องดูบริบทสิฮะ"


- อาจารย์สอนอังกฤษไม่ใช่เหรอฮะ

- ครับ


"อาจารย์ต้องดูบริบทสิฮะ"


"- Context น่ะผมเข้าใจครับ

- เออ นั่นสิ อาจารย์ต้องดูบริบทสิครับ"


"- อ่ะ ทีนี้...

- แล้วยังไงครับ"


"คืออย่างงี้ ผมรู้สึกว่า... เอ่อ..."


"อาจารย์ต้องดูบริบทสิครับ

เวลาเราพูด ใช้คำคำนึงต้องดูบริบทสิครับ

ใช่ไหม ถ้าไม่ดูบริบท มันก็ไม่รู้เรื่องสิครับ

ใช่ไหมครับ"


- อ่า... ครับ

- ถ้างั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่ฮะ


- แล้วไอ้โคตรรวยนี่ไม่หยาบใช่ไหมครับ ฮัลโหล

- ผมบอกไม่หยาบ ก็ผมบอกไม่หยาบ


- แล้วถ้า...

- นะฮะ คืออาจารย์ต้องดูบริบทนะครับ


"ถ้าอาจารย์ไม่ดูบริบท ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ว่าอาจารย์สอนภาษอังกฤษยังไง"


"อ่า ถูกครับ ผมเข้าใจ"


"ถูกไหมฮะ อาจารย์ต้องดูบริบทสิครับ

ว่าความหมายของคำคำนึงเนี่ย

มันต้องดูสภาพแวดล้อม

เชื่อมโยงกันว่าหน้าหลังเป็นยังไง

มันถึงจะมีความหมาย"


"และอาจารย์วีระบอกว่าไม่ได้แซวนายกฯ นะฮะ

(เรียกชื่ออาจารย์ถูก)

แต่ผมเห็นพูดทีไรเรื่องนายกฯ เนี่ย

รู้สึกจะแขวะทุกทีนะครับ"


"แล้วมันเป็นปัญหาอะไรเหรอครับ"


"เป็นสิครับ เพราะผมรู้สึกว่ารายการนี้

มันเป็นหางเครื่องของประชาธิปัตย์นะครับ"


"อืมมมม... แล้วมันเป็นปัญหาอะไรอีกครับ"


"เป็นสิครับ เพราะคุณเชียร์ประชาธิปัตย์

แล้วก็คงจะมีแนวโน้มว่า

จะลงสมัครในพรรคประชาธิปัตย์"


"แล้วมันเป็นปัญหาอะไรเหรอครับ"


"เป็นปัญหาสิครับ เพราะรายการแบบนี้

มันเอาแต่แซวพรรคอื่น"


"นั่นน่ะสิ แล้วมันเป็นปัญหาอะไรเหรอครับ"


- เป็นปัญหาสิครับ เพราะว่า... อ่า...

- เป็นปัญหาอะไรฮะ


- เป็นปัญหาคือ...

- เป็นปัญหาอะไรฮะ เป็นปัญหาอะไร


- ไปชักจูงคนอื่น...

- นั่นน่ะสิ แล้วมันเป็นปัญหาอะไร


- ว่าประชาธิปัตย์เนี่ย...

- คนฟัง...


- ดี... ดีกว่าพรรคอื่น

- ไม่ คนฟังนี่โง่เหรอครับ อาจารย์สมศักดิ์


- ผมว่าคนฟังของคุณส่วนใหญ่ก็...

- โง่เหรอฮะ


- ผมว่าไม่ใช่โง่หรอกฮะ

- นั่นน่ะสิฮะ แล้วมันมีปัญหาอะไรเหรอครับ


- มีปัญหาสิ เพราะว่าคุณมัน... มัน...

- ทำไม มีปัญหาอะไรเหรอฮะ


- เป็นหางเครื่องเขาน่ะครับ

- นั่นน่ะสิ ถึงแม้ผมเป็นหางเครื่อง


- มีปัญหาอะไรเหรอครับ

- มีปัญหาสิครับ เพราะว่าไม่ควรไปจูงใจชาวบ้าน


"อ้าว แล้วเป็นปัญหาอะไรล่ะครับ"


"เป็นปัญหาที่ว่ามัน... มัน...

พรรคการเมืองสองพรรคมันเป็นคู่แข่งกัน"


"อ้าว ก็เป็นคู่แข่งแล้วเป็นปัญหาอะไรเหรอฮะ"


"เป็นสิ เพราะว่าคุณไปเชียร์อีกข้างนึง"


- ก็ไม่เห็นเป็นปัญหาอะไรอีกเหมือนกัน

- เป็นสิครับ ทำไมจะไม่เป็นครับ


- เป็นตรงไหนครับ

- เอาวิทยุนี่มา... มา...


- มาหากินอย่างนี้ใช้ได้ยังไง

- เป็นตรงไหนครับ


"อาจารย์สมศักดิ์ครับ อาจารย์ฟังผมนิดนึงครับ

อาจารย์ฟังรายการนี้มากี่ปีแล้วครับ"


"ผมฟังนานแล้วครับ"


"อาจารย์รู้ใช่ไหม ผมจัดรายการผมมีหลักสามข้อ

อาจารย์รู้ไหมครับ อาจารย์เคยฟังไหมครับ"


"เคยฟังครับ"


"ผมบอกข้อที่หนึ่งคืออะไรครับ"


"อันนี้จำไม่ได้แล้วครับ"


"ถ้าจำไม่ได้อาจารย์คุยกับผมไม่รู้เรื่องแล้ว

รายการนี้จัดตามใจผมครับ"


- ใช่ จัดตามใจผม...

- เออ ถ้าเกิดกฎข้อที่หนึ่งก็จบแล้วครับ


"มีปัญหาอะไรเหรอฮะ"


- มีสิครับ เพราะว่าคุณเอาแบบ...

- มีปัญหากับใครครับ


- เอาแบบเจิม...

- มีปัญหากับใครฮะ


- เอาเจิมศักดิ์ เอาแบบ...

- มีปัญหากับใครฮะ


- อย่างเจิมศักดิ์...

- อาจารย์สมศักดิ์ครับ อาจารย์สอนมหาลัยอะไรคับ


"คุณน่ะหาเสียงครับ"


"โอ๊... อาจารย์"


- หาเสียงเพื่อจะลงเลือกตั้งแบบเจิมศักดิ์น่ะครับ

- ไม่ ๆ


"ถ้าอาจารย์อย่าง... อาจารย์อยู่ที่ไหนครับ

คณะอะไรครับ สอนที่ไหนครับ"


"ผมไม่จำเป็นต้องบอกหรอกครับ"


"ไม่บอกก็ไม่แฟร์สิครับ

ไหนๆ จะใส่กันแล้วก็ต้องใส่ให้เต็มที่เลยครับ"


- นี่แหละครับ เพราะว่าผม... ผมเห็นคุณเนี่ย...

- ไม่ ถ้าจะใส่ต้องใส่...


- แซวนายกฯ ตลอด

- ถ้าจะใส่ต้องใส่กันให้เต็มที่เลยครับ


- เปิดเผยตัวมาเลยครับ

- ไม่เห็นคุณแซวนายกฯ ชวนเลย


"เปิดเผยตัวมาเลยครับ! เปิดเผยตัวมาเลยครับ

แล้วแซวกันเลยครับ ไม่มีปัญหาครับ

แน่จริงเปิดเผยตัวมาเลยครับ

ถ้าไม่แน่จริง วางสายนะครับ"


- ผมไม่อยากจะคุยกับ...

- ถ้าไม่อยากคุยวางสายครับ


"ไม่อยากคุยวางสายครับ ถ้าไม่อยากคุยวางสายครับ"


- ไม่อยากคุยวางสายคับ

- ผมไม่ฟังหรอกครับ


"ไม่ฟังไม่ต้องฟังครับ เคยขอให้ฟังไหมครับ"


- ก็อย่าง...

- เคยขอให้ฟังไหมครับ


- หาเสียงก็เอาเปรียบคนอื่นน่ะครับ

- หาเสียงก็หาเสียง มีปัญหาอะไรเหรอครับ


- มีสิครับ เพราะว่าคนอื่นไม่ได้มี...

- มีปัญหาอะไรกับคุณน่ะ มีปัญหาอะไรกับคุณครั


- ไม่มีประโยชน์

- ไม่มีประโยชน์ไม่ต้องฟังครับ


"ไม่ใช่ หมายความว่าคุณได้ประโยชน์

คนอื่นเขาไม่ได้ประโยชน์อย่างคุณน่ะ"


- ใครได้ประโยชน์ฮะ

- อ้าว ก็ไอ้เวลา...


"โอเคล่ะครับ ตัดเลยครับ ๆ พอแล้วครับ

มั่วแล้วครับ ออกนอกแนวแล้วครับ"



จากนั้นอาจารย์ก็คุยกับคุณสมบัติสายต่อไปว่า

"มันต้องใส่กันอ่ะ แหม จะมาอะไร

เดี๋ยวจะหาว่าผมถอย ปัดโธ่ ไม่มีปัญหาหรอก"


คุณสมบัติ "ผมก็ไม่กล้าว่าเท่าไรแล้วเนี่ย"


อ.วีระ "ไม่ ว่าได้ทั้งนั้นแหละ ทำไมจะว่าไม่ได้

จะไปลงสมัครส.ส. ปัดโธ่เอ๊ย นี่ยังไม่รู้เรื่องเลย

มือชั้นนี้แล้วไปลงสมัครส.ส.เหรอ ปัดโธ่"


ต่อด้วยคุยกับคุณกิตติว่า

"เขาจะอัดผมน่ะ หาเหตุ

พยายามตั้งคำถาม 'ใช่ไหมๆ'

ปัดโธ่เอ๊ย ฟอร์มนี้มาเจอตายไปเยอะแล้ว

ถ้าเป็นคนไม่รู้จักกันเนี่ยอีกเรื่องนึง ขี้เกียจพูด เบื่อ

พูดแล้วยัวะเปล่าๆ


คุณกิตติ "อย่าไปยัวะ"


"ยัวะดิ ไม่ยัวะได้ไง ถ้าไม่ยัวะนี่ไม่ใช่คนแล้ว

โดนเขาด่างี้ ไม่ยัวะได้ไง มันต้องใส่กันแล้ว

ป่านนี้รายการนี่น่ะคนฟังเนี่ยหัวเราะ ผมรู้ (หัวเราะ)


ถ้าเกิดจะใส่กันนะ ขอให้เปิดชื่อ นามสกุล เบอร์โทร

แล้วมาเลย ไม่กลัวหรอก เอาจริงๆ

ผมไม่มีแผลอะไรให้คุณมานั่นผมหรอก

ถ้าเกิดว่าคุณบอกชื่อ นาม สกุล เบอร์โทรนะ

ชัดเจน ใช่ตัวตนนะ คุณพูดกับผมได้ทุกเรื่อง

ขอแค่ผมรู้จักว่าคุณเป็นใคร มันไม่มีปัญหาหรอก"


จากนั้นก็คุยสายต่อไป คุณประสิทธิ์บอกว่า

"โถ ประชาธิปัตย์น่ะโดนแซวตลอด

หาว่าไม่เคยแซว แสดงว่าพี่เขาเป็นแฟนไม่นาน"


"แต่งานนี้ผมไม่ได้ยกการ์ดสูงเลยนะ ผมสบายๆ เลย

แต่ผมพูดมีอารมณ์ คือไหนๆ จะด่ากันแล้ว

ไหนๆ จะใส่กันแล้วก็ใส่กันไปเลย"



อาจารย์กล่าวต่อว่า "เวลาผมเหยียบ 180 แล้วเนี่ย

อยู่ดีๆ มันจะลงไม่ได้ ผมเป็นเกียร์อัตโนมัติก็จริง

แต่มันต้องถอนคันเร่งหน่อย


ผมขอบอกคุณผู้ฟังแบบนี้ก่อนนะ

เพราะผมเป็นคนชัดเจน

ผมรู้ว่าเบรกหน้าจะมีคุณผู้ฟังจำนวนมากทนไม่ไหว

จะต้องโทรมาด่า หรือว่าโทรมาชะยันโต

คุณผู้ฟังเมื่อสักครู่นี้ เอาเป็นว่าผมขอก็แล้วกัน

ไม่ต้องพูดเรื่องนี้เลย ผ่านไปเลย ได้ไหมฮะ

ผมหลุดคนเดียวก็เต็มที่แล้ว นะ ไม่ต้องมาว่ากันต่อ

คุยเรื่องอื่นต่อไปเลย

ผมไม่อนุญาตให้พูดต่อนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่แฟร์

คือหมายความว่าเขาวางสายไปแล้วเนี่ย

ผู้ฟังในรายการโทรมาว่าเขาก็จะยิ่งทำให้เกิด

ความระหองระแหงกันมากขึ้น


ผมเคยเรียนไว้หลายครั้งแล้วว่ารายการนี้

ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำ

ผมรู้ว่าผู้คนมีความแตกต่างทางความคิดหลากหลาย

ถ้าผมไม่เป็นตัวของตัวเองเนี่ย ทำงานตรงนี้ไม่ได้หรอก

และถ้าผมมีความเดือดร้อน มีปัญหาเรื่องสะตุ้งสะตังค์

ทำรายการแบบนี้ก็ทำไม่ได้

ใจมันไม่สงบพอ ผมจะบอกให้

ถ้ายังต้องคิดว่าจะไปเติมบัตรเครดิตยังไง

ต้องไปจ่ายหนี้จ่ายสินยังไง

คุณมานั่งใจเย็นทำรายการแบบนี้ไม่เวิร์กหรอก

คนฟังรายการนี้ผมทราบ

ชอบผมมากๆ นี่มี เกลียดผมมากๆ ก็มี

แต่ว่าทั้งสองกลุ่มเนี่ยฟังรายการ

ซึ่งอันนี้มันประหลาด


กรณีของคุณผู้ชายคนเมื่อสักครู่นี้

เป็นกลุ่มที่เกลียดแต่ต้องฟัง ซึ่งมันก็มีความทุกข์แบบนึง

ส่วนคนที่ชอบ มันก็มีความสุขไปอีกแบบ

แต่จะมีความทุกข์เวลาคนที่เขาไม่ชอบโทรมาว่าผม

ทุกข์ไปอีกแบบนึง

แต่ผมขอว่าเบรกหน้าอย่าคุยเรื่องนี้ จบ นะฮะ"



ทั้งหมดแค่การฟังและสรุปของผม

อาจมีขาดเหลือ ตกหล่น แต่คงน้อยมาก


"รู้อะไร ไม่สู้รู้จิต"

ลูกมด 25 ก.ย. 65

...................................

👄🧵👄👍

บทความอื่นๆ [คลิกได้เลย]

👇






















วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2565

20 ปีแห่งรายการ Talk [2540-2560] - อ.วีระ ธีรภัทร (3)

 


20 ปีแห่งรายการ Talk

"ตอนจบ" แล้วครับ



จากคุยกันวันศุกร์เป็น "คุยกันจันทร์ถึงศุกร์"

จากคุยได้คุยดีเป็น

"คุยได้คุยดี Talk News & Music" [TN&M]


ตอนที่แล้วอาจารย์บอกว่าตกงานครั้งแรกในชีวิต

เพราะ FM 97 Trinity Radio

ไม่ได้ต่อสัมปทานกับกรมประชาสัมพันธ์

ในช่วงเดือนกรกฎคมปี 2551

อาจารย์บอกว่า "มันก็ไม่ถึงกับตกงานสนิทหรอก"

เพราะอาจารย์ก็ยังทำรายการตอนเช้า

"เงินทองต้องรู้" FM 90.5 กับคุณขวัญชนก วุฒิกุล


และอาจารย์เล่าย้อนไปว่า

ระหว่างปี 2546-47 FM 101 เปลี่ยนเจ้าของคลื่น

เจ้าของใหม่ไม่แฮปปี้กับผม อยากหาคนมาจัด

ช่วงที่ผมจัดรายการคุยเฟื่องเรื่องเงิน ไม่ลงตัวกัน


อาจารย์บอกว่า "รายการแบบนี้ผมทำมาก่อน

อยู่ดีๆ จะให้ผมไปทำกับคนอื่นที่ผมไม่รู้จักมักคุ้น

ผมทำไม่ได้หรอก ผมไม่ใช่ตัวประกอบ

ถ้าไม่ใช่ดูโอ้ที่สนิทสนมกัน ผมทำด้วยไม่ได้หรอก

ผมก็เป็นคนถือตัวนะ ไม่ใช่ว่าจะให้ไปทำรายการวิทยุ

อะไรกับใครก็ได้ ผมไม่ใช่แบบนั้น"


พอ FM 101 มาคุยกับอาจารย์แล้วอาจารย์ไม่แฮปปี้

อาจารย์ก็บอกว่าไม่ทำ แล้ว 90.5 ก็มาชวนไปร่วมงาน

วิทยุเนชั่น ทำมาตั้งแต่ 2546

รายการเงินทองต้องรู้ อย่างที่บอกตอนต้นนั่นเอง


สิ้นเดือนกรกฎคมปี 2551 อาจารย์ตกงาน

พอสิงหาคมมีหลายคลื่นมาชวนไปทำงานด้วย

อาจารย์ตกลงจะไปทำที่คลื่นนึงไป

เริ่มงาน 1 กันยายน


อาจารย์เล่าว่าน่าจะบ่ายวันเสาร์ขณะที่ขับรถอยู่

รถจอดอยู่ตรงหน้าบ้านมนังคศิลา แถวสะพานขาว

มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ซึ่งคนรู้เบอร์อาจารย์มีน้อยมาก


สรุปคือคุณวสันต์ ภัยหลีกลี้

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่อสมท. ในขณะนั้น

โทรมาชวนไปทำงานที่คลื่น FM 96.5

คุณวสันต์ ภัยหลีกลี้

อาจารย์ก็บอกว่า "ผมรุงรังนะ เวลามาทำงาน

ผมต้องมีทีมงานผม ซึ่งจะรู้จักนิสัยกันอย่างดี

คือจะไม่ใช้ Program Coordinator ของคลื่น 96.5

ซึ่งอันนี้ต้องจ่ายเงินให้ทีมงานอาจารย์ด้วย

โดยบอกว่า "เขามาทำงานให้ผมก็จริง

แต่เขาก็ทำงานให้ผม ซึ่งผมก็ทำงานให้อสมท.

ก็ต้องมีค่าจงค่าจ้างให้เขา"


คุณวสันต์ก็บอกว่า "ไม่เป็นไร พี่วีระ เข้ามาคุยกัน"


วันนั้นนั่งคุยกันสามคน

รวมคุณวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์เข้ามาอีกคน

ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้อำนวยการคลื่น FM 96.5



อาจารย์ก็บอกว่า "ไม่มีเงื่อนไขอะไรมาก

เพียงแต่อย่างนี้ๆ ผมทำรายการอย่างงี้

ขอไปต่างประเทศบ้างอะไรบ้าง"


ทั้งคุณวสันต์และคุณวิสุทธิ์ก็ตกลง ไม่มีปัญหา


"ผมได้รับการต้อนรับในระดับผู้บริหารอย่างนี้

ผมก็มั่นใจว่าเรียบร้อย แต่มันไม่ง่าย

ก่อนมาทำที่ 96.5 ผมดังมาก่อนนะ แต่ไม่ใช่ดังใน 96.5

คน 96.5 เขาก็รู้จักเลาๆ เคยฟังที่ 97 มาบ้าง

แต่ผมไม่เคยมาเต็มตัวที่นี่ การตอบรับมันจะเป็นยังไง

หนึ่ง คนไม่รู้ว่าผมมาทำที่นี่ และคนอย่างผม

ไม่มีแถลงข่าวว่าผมย้ายคลื่น ผมไม่ทำเด็ดขาด

แต่ผมมีอาวุธลับครับ ผมมีอาวุธลับครับ


ระหว่างที่ผมมาทำที่ 96.5 ได้ 4-5 วัน

ก่อนหน้านั้นผมโทรไปหาเลาขาฯ ของผู้ใหญ่ท่านนึง

บอกว่าผมย้ายคลื่นมา 96.5 อยากขอสัมภาษณ์ท่าน

เพื่อประเดิมรายการ ท่านก็รับปาก

แต่ผมไม่ได้บอกใครว่าท่านจะมา

แล้วคนที่มาคือใครครับ ?


ตอนนั้นประเทศไทยกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย

การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรกับรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช

จำได้ไหมครับว่าอสม. ปั่นป่วนขนาดไหนวันนั้น

เพราะไม่มีใครรู้สักคนในอสมท.ว่าบ่ายสองวันนั้น

นายกฯ จะมาคุยในรายการที่คลื่น 96.5

ตอนนั้นกำลังเกิดข่าวว่าคุณสมัครจะลาออกไหม

คุณสมัคร สุนทรเวช


แกไปพูดที่กรมประชาสัมพันธ์ตอนเช้า

บอกว่าไปฟังคำตอบผมตอนบ่ายรายการคุณวีระ

ที่ 96.5 แกพูดอย่างนี้เลย

รายการอะไร 'คุยได้คุยดี Talk News & Music'

FM 96.5 ซึ่งเพิ่งมาทำได้ประมาณ 3-4 วันเท่านั้นเอง


ผมจำได้ว่าแกมาให้สัมภาษณ์ผมเนี่ยวันพฤหัสบดี

แต่ผมจำวันที่ไม่ได้แน่นอน

(ผมค้นดู 4 กันยายน 2551 ครับ)

ไม่มีใครรู้เลย ผู้บริหารอสมท. ประธานกรรมการ

ไม่มีใครรู้ทั้งนั้น เพราะผมไม่บอก


ที่จริงผมต้องการทำเซอร์ไพรส์ที่สถานี

แต่คุณสมัครท่านไปพูดที่วิทยุกรมประชาสัมพันธ์

ทุกคนรู้หมด!


ก่อนที่จะออกรายการตอนบ่ายสอง

ข้างล่างรถนักข่าวทุกช่อง น่าจะ 100 กว่าคนได้

มารอว่าคุณสมัครจะแถลงข่าวอะไร

ผู้บริหารอสมท.ถามว่า 'เกิดอะไรขึ้น'

ผมบอก 'ไม่มีอะไร ผมก็แค่นัดกับท่านไว้

ผมไม่รู้ว่าท่านจะบอกออกอากาศว่าจะมาที่อสมท.'


ผู้บริหาร 'แล้วยังไง'


ผมบอก 'ไม่ยังไงก็แล้วแต่ ผมไม่เกี่ยว

ผมก็จะมาที่ห้องส่ง ผมนัดท่านไว้น่ะ

ท่านมา ผมก็นั่งคุยกับท่าน'


แล้วคุณสมัครก็มา เจ้าหน้าที่ต้องพาขึ้นทางประตูหนีไฟ

หรือไม่ก็ลิฟต์ขนของนี่แหละ (จำไม่ได้แน่ชัด)


ผมมาถึงสถานี 13:50 น. พอลงจากรถมา

นักข่าวจะมาสัมภาษณ์ผมกันใหญ่

ผมก็บอก 'ผมไม่เกี่ยว ผมไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวผมขึ้นไป'

นักข่าวก็ไม่เจอคุณสมัครนะ

ไม่มีใครรู้ว่าคุณสมัครอยู่ไหน


ทางผู้บริหารก็มาต้อนรับพูดคุยกับท่าน

พอบ่ายสองผมก็เชิญท่านเข้าห้องส่ง

แล้วผมก็คุยกับคุณสมัคร สุนทรเวชอยู่ 1 ชั่วโมง


ทุกสื่อก็จับจ้อง เพราะไม่รู้แกจะแถลงอะไร

มันมีข่าวลือช่วงเช้าว่าแกจะลาออก

ถ้าคุณจำได้ ตอนนั้นศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณา

เรื่องคดีที่แกไปทำรายการทำกับข้าว "ชิมไปบ่นไป"

นักการเมืองไปรับเงินเอกชน

ถูกตีความว่าไปมีผลประโยชน์กับเอกชน


หลังจากแกมาคุยกับผมวันนั้น

ตอนท้ายรายการผมก็เปิดเพลงนี้ให้แก

I'm on My Way - Cliff Richard & The Shadows



ผมก็บอก "เพลงนี้ผมเปิดให้ท่าน"


หลังจากนั้นไม่เกิน 3 วัน ศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัย

เรื่องรายการทำกับข้าวของแก

แล้วก็ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลย

ง่ายๆ อย่างงี้เลย!

หลังจากนั้นก็จะเป็นรัฐบาลคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์มา


จากนั้นก็ปิดสนามบิน ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ

พอวันที่ 2 ธันวาคม รัฐบาลคุณสมชายก็ไป

เปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์


รายการคุยกันจันทร์ถึงศุกร์ก็เปลี่ยนเป็น

รายการคุยได้คุยดี Talk News & Music ทาง FM 96.5

เป็นการเกิดใหม่อีกครั้งนึงของผม

และครบ 10 ปีในปี 2561

(กันยายน 2551 - กันยายน 2561)"


ปิดท้าย อาจารย์เปิดสองเพลง

เพลงแรกเมื่อมีการลาจากหรือจากไปสำคัญๆ

(วันแรกที่อาจารย์กลับมาจัดคุยได้คุยดี TN&M

หลัง ร.9 สวรรคต อาจารย์ก็เปิดเพลงนี้)

อาจารย์ดูจากหนังสองเรื่องแล้วชอบ

Hannibal และ Kingdom of Heaven

นั่นคือเพลง Vide Cor Meum



แลเพลงที่สอง Time To Say Goodbye



ทั้งหมดแค่การฟังและสรุปของผม

อาจมีขาดเหลือ ตกหล่น แต่คงน้อยมาก


ทุกข์มีไว้ให้รู้ และดับมันให้จงได้

ลูกมด 24 ก.ย. 65

...................................

👄🧵👄👍

บทความอื่นๆ [คลิกได้เลย]

👇