โพสต์นี้อ้างอิงจากซีดีในชื่อเดียวกันครับ
"20 ปีแห่งรายการ Talk"
อาจารย์วีระเล่าถึงความเป็นมา
ของการจัดรายการทอล์กให้ฟัง
จากคุยกันวันศุกร์เป็น "คุยกันจันทร์ถึงศุกร์"
จากคุยได้คุยดีเป็น "คุยได้คุยดี Talk News & Music"
[ คุยกันวันศุกร์ ]
อาจารย์เริ่มจัดรายการวิทยุครั้งแรกกลางปี 2537
คลื่น FM 96 วิทยุ รด.
แต่เริ่มทำเป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ ตอนทำที่คลื่น FM 101
ช่วงมิถุนายน 2538 นั่นคือจุดเปลี่ยนแปลงชีวิต
ในการทำงานวิทยุโดยสิ้นเชิง
ตอนนั้นอาจารย์เป็นผู้อำนวยการสถานีวิทยุ
101 News & Talk FM Network
โดยบอกว่าเป็นยุคทำวิทยุคลื่นข่าวที่สนุกสนานที่สุด
ต้องรับผิดชอบทั้งคลื่น ทั้งข่าวต้นชั่วโมง
การจัดผังรายการ
การสร้างสรรค์รายการ ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง
อาจารย์ได้จัดรายการประเภทชุดคุยเฟื่อง
ไม่ว่าจะเป็นคุยเฟื่องเรื่องข่าว
คุยเฟื่องเรื่องทอง คุยเฟื่องเรื่องเงิน
และตั้งชื่อรายการให้คนอื่นทำ "เยอะแยะตาแป๊ะ"
แถมจัดรายการนึงแบบเฉพาะกิจทุกวันศุกร์ด้วย
เริ่มจัดราวปี 2540
ตอนนั้นเขามีรายการตอนช่วงเย็นอยู่แล้ว
เวลา 17:00-19:00 น.
แต่ในวันศุกร์อาจารย์ขอเข้าไปจัดรายการ 1 ชั่วโมง
ชื่อรายการ "คุยกันวันศุกร์"
[ คุยกันจันทร์ถึงศุกร์ ]
ต่อมาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ 2540 ต่อเนื่องถึง 2541
แม้อาจารย์จะทำรายการคุยเฟื่องเรื่องเงิน
คลื่น 101 ช่วงตอนเช้า
ต่อเนื่องมาอีกหลายปีก็ตามที
แต่ในช่วงนั้นได้รับการติดต่อ
ให้ไปจัดรายการที่คลื่น Trinity Radio FM 97
ของกรมประชาสัมพันธ์ ปี 2541
รายการนี้แหละที่โด่งดังมาก
นั่นคือ "คุยกันจันทร์ถึงศุกร์"
โดยมีเพลงจิงเกิ้ลรายการคือ
เพลง Scotland The Brave - Louis Clark & Royal Philharmonic Orchestra
เพลงนี้ได้มาจากซีดี เป็นตลับทั้งหมด 4 แผ่น
อัลบั้ม Hooked On Classics
ในเวลานั้นเศรษฐกิจไทยวินาศสันตะโร
เรียกได้ว่าล้มละลาย
ร้านรวงปิดหมด รถราไม่มีวิ่งบนถนนเลย
ยอดขายรถยนต์ลดลงไป 30 %
โรงงานปิดไปเป็นตับ เจ้าหนี้ไล่ทวงหนี้
คนตกงานกันอิรุงตุงนัง
ตอนเข้าไปทำรายการนี้ที่ FM 97.0 Trinity Radio
ทางผู้บริหารหรือเจ้าของ
ที่ได้รับสัมปทานคลื่นมาจากกรมประชาสัมพันธ์
เขาไม่ได้เมตตาอาจารย์นัก
เวลาจัดรายการวิทยุ
สมัยก่อนถ้าเลือกได้ทุกคนจะจัดรายการช่วงเช้า
6 - 8 โมงเช้า หรือ 7 - 9 โมงเช้า
และ 4 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม แล้วแต่สถานี
เพราะคนส่วนมากขับรถอยู่
ถ้าไม่มีอะไรทำก็ต้องเปิดวิทยุฟัง
ดังนั้นใครที่จัดรายการช่วงเช้าหรือเย็นแล้วดัง
มันเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ
ที่ FM 97 เขามีแม่เหล็กทำช่วงเช้าเย็นอยู่แล้ว
อาจารย์เข้าไปทีหลัง
บอกไปว่า "ไม่เป็นไรครับ ผมจัดช่วงไหนก็ได้"
และได้จัดในช่วงเวลาตาบอดสำหรับวิทยุ
(ช่วงบ่ายโมงถึงบายสามโมง ไม่ค่อยมีคนฟัง)
แต่ช่วงนั้นทุกคนตกงาน ไม่มีงานทำ ว่างตอนบ่าย
อ.วีระเล่าว่า "ในวัย 41 ผมห้าวมากนะ
ท่านมาฟังผมที่ FM 96.5 เนี่ย
ผมภูเขาไฟระเบิดไปแล้ว
ไม่ใช่ภูเขาไฟวิสุเวียสเหมือนในปี 2541
ตอนนั้นในทางการเงิน ในทางการงาน ผมโชคดีที่สุด
ยิ่งวิกฤตยิ่งทำมาหากินได้เพลิดเพลินมาก
แล้วคนก็ฟังรายการเต็มบ้านเต็มเมือง
ขนาดนิตยสาร TIME ยังเอาเรื่องของผมไปลง
หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์มาสัมภาษณ์ผม
และเรียกผมว่า King of Wave
มันดังจริงๆ ถ้าเทียบกับคุยได้คุยดี FM 96.5 แล้ว
สมัยนั้นคุยกันจันทร์ถึงศุกร์คนฟังนี่แทบจะคลั่ง
ระหว่างนั้นผมก็ยังจัดรายการวิทยุที่ FM 101 ตอนเช้า
และจัดคุยกันจันทร์ถึงศุกร์ที่ FM 97.0 Trinity Radio
มาคนเดียวเลยครับ เดินเข้าไปในสตูคนเดียวเลย
เสือ สิงห์ กระทิง แรดเต็มไปหมด ผมก็จับไมค์แล้วก็พูด
อาทิตย์แรกที่จัดคนโทรศัพท์มาด่าที่สถานีว่า
"ให้มีผู้ดำเนินรายการอย่างนี้ได้ยังไง" และเปิดสายด้วย
ช่วงนี้แหละ ต้นกำเนิดของ "ตัดสาย"
คุยกันทะเลาะกันไป ไม่รู้ล่ะ
ผมก็ถือว่าผมก็หนึ่งในตองอูเหมือนกัน
ผมไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้นแหละ
และทุกคนมีปัญหาหมด
จะหนีหนี้ยังไง จะใช้หนี้ยังไง จะทำยังไง
ในที่สุดก็เริ่มมาถามว่าจะหาทางออกยังไง
เรื่องหนี้ เรื่องเศรษฐกิจ
ผมเลยเหมือนกับเป็นศาลาพักใจ
คนมีปัญหา มีเรื่องมีราวก็มาคุย
ผมจัดอยู่หลายปี แต่ระหว่างที่ทำมันก็ลุ่มๆ ดอนๆ
เพราะคลื่นวิทยุสมัยก่อนมันมีการแข่งขันกัน
เรื่องประมูล เรื่องธุรกิจ
เกี่ยวข้องกับนักการเมือง เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี
หลายครั้งผมต้องยกหูโทรศัพท์
มีอยู่ครั้งนึงผมยกหูโทรศัพท์คุยกับนายกรัฐมนตรี
บอก "ห้ามยุ่งกับคลื่นนี้นะ" โอ๊ย ตอนนั้นมันแย่งกันเยอะ
มันเห็นคลื่น 97 ดัง ทุกคนก็อยากจะทำกันทั้งนั้น
หลังจากนั้น ประมาณปี 2547 หรือ 2548
ผมจะเลิกทำรายการ
ลงทะเบียนเรียนปริญญาโทเรียบร้อย สอบได้แล้ว
แต่ผมก็ห่วงรายการ
ผมจะไปไหนมาไหนก็ลำบาก
และช่วงนั้นผมเริ่มไปเที่ยวต่างประเทศ
แต่พอผมพูดอย่างนี้เมื่อไหร่
แฟนรายการคุยกันจันทร์ถึงศุกร์
ไม่มีใครยอมเลย ไม่ได้เด็ดขาด
ยังไงก็ไม่ได้ ไม่ยอมให้เลิก!!!"
[สองไฮไลต์ที่เกิดขึ้น
ในช่วงคุยกันจันทร์ถึงศุกร์]
พบกันใหม่ตอน 2 ครับ
กลัวจะยาวเกินไป เดี๋ยวคุณขี้เกียจอ่านกัน
ผมตัดแยกย่อยดีกว่าครับ เท่านี้กำลังดี
ทั้งหมดแค่การฟังและสรุปของผม
อาจมีขาดเหลือ ตกหล่น แต่คงน้อยมาก!
จิตที่ฝึกดีแล้ว นำสุขมาให้
...................................
2 ความคิดเห็น:
รอติดตามตอนต่อไปครับ
น่าจะเล่าเป็นคลิป ลงยูทูปนะครับ
ขอบคุณครับ ไว้อาจจะลองดูในอนาคต การเล่าเป็นอีกศาสตร์เหมือนกัน
ต้องอาศัยเสียงที่ชวนฟัง การเรียบเรียงคำพูดที่น่าติดตาม
ไม่ได้ยกตนเทียบท่านนะ แต่อาจารย์มีบุญในด้านนี้
ทั้งด้านเสียงและผ่านการฝึกพูดมานาน มากด้วยประสบการณ์
ขอบคุณอีกครั้งครับ!
แสดงความคิดเห็น